สาบเสือ จัดเป็นพืชรุกรานต่างถิ่นที่สามารถเติบโต และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเมล็ดจำนวนมาก และเมล็ดสามารถลอยตามลมได้ แต่ทั้งนี้ สาบเสือก็มีประโยชน์ในทางยาที่สำคัญ คือ ช่วยทำให้เลือดจากบาดแผลแข็งตัวได้เร็วขึ้น
ความเป็นมาของสาบเสือ
สาบเสือ เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา ถูกนำเข้ามาสู่ประเทศอินเดียประมาณปี ค.ศ. 1840 จากนั้น จึงมีการแพร่กระจายสู่อ่าวเบงกอล พม่า และไทยตามมา ส่วนข้อสันนิษฐานหนึ่งจากสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่กล่าวถึงการแพร่กระจายของสาบเสือว่า สาบเสือเริ่มเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงหลังสงครามครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2457-2461) ที่อาจเกิดจากมีการปะปนของเมล็ดสาบเสือติดมากับเรือสินค้าจากหมู่เกาะเวสต์ อินดีส และแพร่กระจายสาบเสือเข้ามาสู่ภาคใต้ของประเทศไทยประมาณปี พ.ศ. 2483
ประโยชน์สาบเสือ
- สารสกัดจากใบใช้เป็นยาป้องกัน และกำจัดแมลงในแปลงเกษตร เช่น หนอนกระทู้ ด้วง และเพลี้ยอ่อน เป็นต้น
- ใช้ทาบริเวณแมลงกัดต่อย ลดอาการปวด คันของแผล
- ใบใช้ขยี้ทาตามร่างกายสำหรับป้องกันยุงกัด
- ถ่านจากต้นสาบเสือใช้เป็นตัวดูดวับสารโลหะหนักในน้ำเสีย
- ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน
- ใช้หยุดห้ามเลือดในแผลสด
- นอกจากนี้เรายังใช้ต้นสาบเสือเป็นตัวชี้วัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ ถ้าหากอากาศไม่แล้ง ต้นสาบเสือก็จะไม่ออกดอกนั่นเอง
- ใบสาบเสือมีฤทธิ์ในการกำจัดปลวก ไล่แมลง ฆ่าแมลงได้ (ใบ)
ผลเสียของสาบเสือ
- สาบเสือจัดเป็นพืชรุกรานต่างถิ่นที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก ออกเมล็ดจำนวนมาก และเมล็ดสามารถลอยตามแรงลมได้ รวมถึงเป็นพืชที่ทนต่อทุกสภาพได้ดีทั้งภาวะแห้งแล้ง และน้ำท่วม
ถือว่าสาบเสือเป็นพืชที่มีประโยชน์ในทางบวกมากกว่าทางลบ และสาบเสือเป็นพืชที่หาง่าย ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนของประเทศไทยสามารถพบสาบเสือได้